รัฐมนตรีคลังเสนอแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ 110K ล้านบาท
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 110,000 ล้านบาทต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อรับมือกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง การบริโภคที่ชะลอตัว และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
แพ็กเกจนี้ประกอบด้วย 4 มาตรการหลัก ได้แก่
- การให้เงินสนับสนุนแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มอีก 1,000 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- การสนับสนุน SMEs ผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารของรัฐวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท
- โครงการส่งเสริมการจ้างงานสำหรับนักศึกษาจบใหม่และแรงงานสูงอายุ
- มาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวผ่านคูปองดิจิทัลและส่วนลดค่าโดยสารภายในประเทศ

รัฐบาลคาดว่า มาตรการเหล่านี้จะสามารถกระตุ้น GDP ได้ประมาณ 0.6–0.8% ภายในสิ้นปี 2568 และจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน โดยเฉพาะในภาคการค้าปลีก บริการ และการผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม นักวิชาการบางส่วนได้แสดงความกังวลว่า การใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มเติมในช่วงที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณอาจทำให้ความสามารถในการบริหารหนี้สาธารณะลดลงในระยะยาว หากไม่มีแผนจัดเก็บรายได้ที่ชัดเจนประกอบ
กระทรวงการคลังย้ำว่า งบประมาณดังกล่าวจะมาจากงบกลางที่ยังไม่ได้ใช้ในปีงบประมาณ 2568 และส่วนหนึ่งมาจากเงินกู้เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจตามกรอบ พ.ร.ก. เงินกู้ที่เหลืออยู่เดิม การดำเนินมาตรการทั้งหมดคาดว่าจะเริ่มทยอยออกได้ภายในเดือนกรกฎาคม และจะมีการติดตามประเมินผลรายไตรมาสเพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



